การตรวจเช็กบ้านประจำปี มีอะไรบ้างที่ต้องตรวจเช็คอยู่สม่ำเสมอ
โดย:
เจ้าหน้าที่ TTT
[IP: 171.99.128.xxx]
เมื่อ: 2025-11-19 14:33:31
การตรวจเช็กบ้านประจำปี มีอะไรบ้างที่ต้องตรวจเช็คอยู่สม่ำเสมอ
บ้านก็เปรียบเสมือนร่างกายของคนเราที่ย่อมมีความเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา การดูแลรักษาบ้านให้คงสภาพดีและน่าอยู่เสมอ จึงไม่ได้หมายถึงแค่การทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การตรวจเช็กบ้านประจำปี ที่เปรียบเสมือนการตรวจสุขภาพใหญ่ เพื่อค้นหาความผิดปกติที่ซ่อนอยู่และแก้ไขได้ทันท่วงทีก่อนที่จะลุกลามบานปลายกลายเป็นปัญหาใหญ่โต โดยเฉพาะปัญหาเรื่องโครงสร้างและการทรุดตัวที่อาจต้องใช้วิธีการแก้ไขทางวิศวกรรมอย่างการเสริมฐานรากด้วย เสาเข็มไมโครไพล์ เข้ามาช่วย ซึ่งหากเราหมั่นตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เราจะสามารถวางแผนการซ่อมแซมและบริหารงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาไปสำรวจจุดสำคัญที่เจ้าของบ้านทุกคนไม่ควรละเลย
1. ตรวจสอบระบบหลังคา ฝ้าเพดาน และการรั่วซึม
จุดที่มักสร้างปัญหาปวดหัวที่สุดให้กับเจ้าของบ้านคือ "น้ำรั่ว" ซึ่งมักจะเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ บนหลังคา การตรวจสอบควรเริ่มจากสังเกตภายนอกว่ามีกระเบื้องหลังคาแผ่นไหนแตกร้าว หลุดร่อน หรือเผยอออกหรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณครอบสันหลังคาและปีกนก
สำหรับภายในบ้าน ให้สังเกตที่ฝ้าเพดาน หากพบรอยด่างดวง สีบวมพอง หรือคราบน้ำสีน้ำตาล นั่นเป็นสัญญาณชัดเจนว่ามีการรั่วซึมเกิดขึ้นด้านบน ควรรีบเรียกช่างมาอุดรอยรั่วทันที เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ ความชื้นจะสะสมจนเกิดเชื้อรา ลามไปถึงระบบไฟฟ้า และทำให้ฝ้าเพดานถล่มลงมาได้
2. ตรวจสอบรอยร้าวบนผนังและโครงสร้าง
รอยร้าวคือสัญญาณเตือนภัยที่บ้านพยายามส่งบอกเรา แต่ไม่ใช่รอยร้าวทุกแบบจะอันตรายเท่ากัน คุณต้องแยกให้ออกระหว่างรอยร้าวลายงา (Hairline crack) ที่เกิดจากการหดตัวของปูนฉาบ ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการทาสีทับ กับรอยร้าวโครงสร้างที่อันตราย
• รอยร้าวแนวดิ่งกลางผนัง หรือรอยร้าวแนวทแยงมุมจากวงกบประตูหน้าต่าง: มักเกิดจากการที่เสาหรือคานรับน้ำหนักไม่ไหว หรือฐานรากมีการทรุดตัวไม่เท่ากัน
• รอยร้าวแยกตัวระหว่างส่วนต่อเติมกับตัวบ้านหลัก: นี่คือปัญหาคลาสสิกของบ้านที่มีการต่อเติมครัวหรือโรงจอดรถ หากพบว่าส่วนต่อเติมเริ่มฉีกแยกออกจากตัวบ้านอย่างชัดเจน อาจถึงเวลาที่ต้องพิจารณาเรื่องการเสริมความแข็งแรงของฐานราก ซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้ เสาเข็มไมโครไพล์ เข้ามาแก้ปัญหานี้ เนื่องจากสามารถเข้าทำงานในพื้นที่แคบได้และรับน้ำหนักได้สูง หยุดการทรุดตัวได้อย่างชะงัด
3. ตรวจสอบระบบน้ำและระบบไฟฟ้า
ระบบสาธารณูปโภคคือเส้นเลือดใหญ่ของบ้าน สำหรับระบบไฟฟ้า ให้ตรวจสอบตู้คอนซูมเมอร์ยูนิตว่าเบรกเกอร์ทำงานปกติหรือไม่ ลองกดปุ่ม Test ตัวตัดไฟรั่ว และสังเกตปลั๊กไฟหรือสวิตช์ไฟว่ามีรอยไหม้หรือหลวมคลอนหรือไม่ สายไฟที่เก่ากรอบควรได้รับการเปลี่ยนใหม่เพื่อป้องกันไฟไหม้
สำหรับระบบประปา ให้ลองปิดก๊อกน้ำทุกจุดในบ้านแล้วสังเกตมิเตอร์น้ำหน้าบ้าน หากมิเตอร์ยังหมุนอยู่ แสดงว่ามีท่อรั่วซึมที่มองไม่เห็น (ท่อแตกใต้ดิน) ซึ่งจะทำให้ค่าน้ำพุ่งสูงและทำให้ดินใต้บ้านทรุดตัวเร็วขึ้นจากการถูกน้ำเซาะ
4. การทรุดตัวของส่วนต่อเติม และบทบาทของ เสาเข็มไมโครไพล์
ปัญหายอดฮิตของการตรวจบ้านประจำปีคือ การพบว่าส่วนต่อเติมอย่างครัวไทยหลังบ้าน หรือโรงจอดรถหน้าบ้าน มีการทรุดตัวลงจนพื้นลาดเอียง หรือดึงรั้งตัวบ้านหลักจนเสียหาย สาเหตุหลักมักเกิดจากการใช้เสาเข็มสั้นในตอนก่อสร้างแรกเริ่ม เมื่อดินทรุดตัวตามธรรมชาติ เข็มสั้นจึงทรุดตามลงไปด้วย
หากคุณตรวจสอบแล้วพบปัญหานี้ การเทปูนทับเพื่อปรับระดับเป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราวและเพิ่มน้ำหนักให้ทรุดเร็วกว่าเดิม ทางออกที่ถูกต้องคือการใช้ เสาเข็มไมโครไพล์ เข้ามาเสริมฐานราก (Underpinning) ข้อดีคือเครื่องจักรมีขนาดเล็ก สามารถเข็นเข้าไปตอกในพื้นที่แคบๆ อย่างหลังบ้านได้โดยไม่ต้องทุบห้องทิ้ง และแรงสั่นสะเทือนน้อยมากจนไม่กระทบโครงสร้างเดิมหรือเพื่อนบ้าน
5. ตรวจสอบปลวกและแมลงศัตรูไม้
ปลวกคือภัยเงียบที่ทำลายบ้านได้ทั้งหลังโดยที่คุณไม่รู้ตัว การตรวจเช็กประจำปีควรเดินสำรวจรอบบ้านเพื่อหา "ทางเดินดิน" ของปลวกตามขอบบัว พื้นไม้ วงกบประตู หรือตามซอกมุมอับชื้น ลองเคาะบัวไม้หรือเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินดู หากมีเสียงกลวงๆ แสดงว่าข้างในอาจถูกกินไปแล้ว
• ควรฉีดน้ำยากันปลวกลงดินรอบบ้านทุก 1-3 ปี
• หากพบปลวกภายในบ้าน ห้ามฉีดสเปรย์ไล่แมลงทั่วไป เพราะจะทำให้ปลวกกระจายตัวหนีไปกินจุดอื่น ควรเรียกบริษัทกำจัดปลวกมาวางเหยื่อล่อเพื่อกำจัดให้ตายยกรัง
6. ตรวจสอบระบบระบายน้ำและรางน้ำฝน
อย่ามองข้ามรางน้ำฝน โดยเฉพาะบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่ ใบไม้แห้งมักจะไปอุดตันในรางน้ำ ทำให้เมื่อฝนตกหนัก น้ำจะระบายไม่ทันและไหลย้อนกลับเข้าสู่ตัวบ้านหรือฝ้าเพดานได้ ควรปีนขึ้นไปทำความสะอาดรางน้ำฝนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ก่อนเข้าหน้าฝนและหลังหมดหน้าฝน รวมถึงตรวจสอบท่อระบายน้ำรอบบ้านว่าไม่อุดตัน เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก ไม่ขังจนเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายหรือกัดเซาะหน้าดิน
บ้านก็เปรียบเสมือนร่างกายของคนเราที่ย่อมมีความเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา การดูแลรักษาบ้านให้คงสภาพดีและน่าอยู่เสมอ จึงไม่ได้หมายถึงแค่การทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การตรวจเช็กบ้านประจำปี ที่เปรียบเสมือนการตรวจสุขภาพใหญ่ เพื่อค้นหาความผิดปกติที่ซ่อนอยู่และแก้ไขได้ทันท่วงทีก่อนที่จะลุกลามบานปลายกลายเป็นปัญหาใหญ่โต โดยเฉพาะปัญหาเรื่องโครงสร้างและการทรุดตัวที่อาจต้องใช้วิธีการแก้ไขทางวิศวกรรมอย่างการเสริมฐานรากด้วย เสาเข็มไมโครไพล์ เข้ามาช่วย ซึ่งหากเราหมั่นตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เราจะสามารถวางแผนการซ่อมแซมและบริหารงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาไปสำรวจจุดสำคัญที่เจ้าของบ้านทุกคนไม่ควรละเลย
1. ตรวจสอบระบบหลังคา ฝ้าเพดาน และการรั่วซึม
จุดที่มักสร้างปัญหาปวดหัวที่สุดให้กับเจ้าของบ้านคือ "น้ำรั่ว" ซึ่งมักจะเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ บนหลังคา การตรวจสอบควรเริ่มจากสังเกตภายนอกว่ามีกระเบื้องหลังคาแผ่นไหนแตกร้าว หลุดร่อน หรือเผยอออกหรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณครอบสันหลังคาและปีกนก
สำหรับภายในบ้าน ให้สังเกตที่ฝ้าเพดาน หากพบรอยด่างดวง สีบวมพอง หรือคราบน้ำสีน้ำตาล นั่นเป็นสัญญาณชัดเจนว่ามีการรั่วซึมเกิดขึ้นด้านบน ควรรีบเรียกช่างมาอุดรอยรั่วทันที เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ ความชื้นจะสะสมจนเกิดเชื้อรา ลามไปถึงระบบไฟฟ้า และทำให้ฝ้าเพดานถล่มลงมาได้
2. ตรวจสอบรอยร้าวบนผนังและโครงสร้าง
รอยร้าวคือสัญญาณเตือนภัยที่บ้านพยายามส่งบอกเรา แต่ไม่ใช่รอยร้าวทุกแบบจะอันตรายเท่ากัน คุณต้องแยกให้ออกระหว่างรอยร้าวลายงา (Hairline crack) ที่เกิดจากการหดตัวของปูนฉาบ ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการทาสีทับ กับรอยร้าวโครงสร้างที่อันตราย
• รอยร้าวแนวดิ่งกลางผนัง หรือรอยร้าวแนวทแยงมุมจากวงกบประตูหน้าต่าง: มักเกิดจากการที่เสาหรือคานรับน้ำหนักไม่ไหว หรือฐานรากมีการทรุดตัวไม่เท่ากัน
• รอยร้าวแยกตัวระหว่างส่วนต่อเติมกับตัวบ้านหลัก: นี่คือปัญหาคลาสสิกของบ้านที่มีการต่อเติมครัวหรือโรงจอดรถ หากพบว่าส่วนต่อเติมเริ่มฉีกแยกออกจากตัวบ้านอย่างชัดเจน อาจถึงเวลาที่ต้องพิจารณาเรื่องการเสริมความแข็งแรงของฐานราก ซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้ เสาเข็มไมโครไพล์ เข้ามาแก้ปัญหานี้ เนื่องจากสามารถเข้าทำงานในพื้นที่แคบได้และรับน้ำหนักได้สูง หยุดการทรุดตัวได้อย่างชะงัด
3. ตรวจสอบระบบน้ำและระบบไฟฟ้า
ระบบสาธารณูปโภคคือเส้นเลือดใหญ่ของบ้าน สำหรับระบบไฟฟ้า ให้ตรวจสอบตู้คอนซูมเมอร์ยูนิตว่าเบรกเกอร์ทำงานปกติหรือไม่ ลองกดปุ่ม Test ตัวตัดไฟรั่ว และสังเกตปลั๊กไฟหรือสวิตช์ไฟว่ามีรอยไหม้หรือหลวมคลอนหรือไม่ สายไฟที่เก่ากรอบควรได้รับการเปลี่ยนใหม่เพื่อป้องกันไฟไหม้
สำหรับระบบประปา ให้ลองปิดก๊อกน้ำทุกจุดในบ้านแล้วสังเกตมิเตอร์น้ำหน้าบ้าน หากมิเตอร์ยังหมุนอยู่ แสดงว่ามีท่อรั่วซึมที่มองไม่เห็น (ท่อแตกใต้ดิน) ซึ่งจะทำให้ค่าน้ำพุ่งสูงและทำให้ดินใต้บ้านทรุดตัวเร็วขึ้นจากการถูกน้ำเซาะ
4. การทรุดตัวของส่วนต่อเติม และบทบาทของ เสาเข็มไมโครไพล์
ปัญหายอดฮิตของการตรวจบ้านประจำปีคือ การพบว่าส่วนต่อเติมอย่างครัวไทยหลังบ้าน หรือโรงจอดรถหน้าบ้าน มีการทรุดตัวลงจนพื้นลาดเอียง หรือดึงรั้งตัวบ้านหลักจนเสียหาย สาเหตุหลักมักเกิดจากการใช้เสาเข็มสั้นในตอนก่อสร้างแรกเริ่ม เมื่อดินทรุดตัวตามธรรมชาติ เข็มสั้นจึงทรุดตามลงไปด้วย
หากคุณตรวจสอบแล้วพบปัญหานี้ การเทปูนทับเพื่อปรับระดับเป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราวและเพิ่มน้ำหนักให้ทรุดเร็วกว่าเดิม ทางออกที่ถูกต้องคือการใช้ เสาเข็มไมโครไพล์ เข้ามาเสริมฐานราก (Underpinning) ข้อดีคือเครื่องจักรมีขนาดเล็ก สามารถเข็นเข้าไปตอกในพื้นที่แคบๆ อย่างหลังบ้านได้โดยไม่ต้องทุบห้องทิ้ง และแรงสั่นสะเทือนน้อยมากจนไม่กระทบโครงสร้างเดิมหรือเพื่อนบ้าน
5. ตรวจสอบปลวกและแมลงศัตรูไม้
ปลวกคือภัยเงียบที่ทำลายบ้านได้ทั้งหลังโดยที่คุณไม่รู้ตัว การตรวจเช็กประจำปีควรเดินสำรวจรอบบ้านเพื่อหา "ทางเดินดิน" ของปลวกตามขอบบัว พื้นไม้ วงกบประตู หรือตามซอกมุมอับชื้น ลองเคาะบัวไม้หรือเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินดู หากมีเสียงกลวงๆ แสดงว่าข้างในอาจถูกกินไปแล้ว
• ควรฉีดน้ำยากันปลวกลงดินรอบบ้านทุก 1-3 ปี
• หากพบปลวกภายในบ้าน ห้ามฉีดสเปรย์ไล่แมลงทั่วไป เพราะจะทำให้ปลวกกระจายตัวหนีไปกินจุดอื่น ควรเรียกบริษัทกำจัดปลวกมาวางเหยื่อล่อเพื่อกำจัดให้ตายยกรัง
6. ตรวจสอบระบบระบายน้ำและรางน้ำฝน
อย่ามองข้ามรางน้ำฝน โดยเฉพาะบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่ ใบไม้แห้งมักจะไปอุดตันในรางน้ำ ทำให้เมื่อฝนตกหนัก น้ำจะระบายไม่ทันและไหลย้อนกลับเข้าสู่ตัวบ้านหรือฝ้าเพดานได้ ควรปีนขึ้นไปทำความสะอาดรางน้ำฝนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ก่อนเข้าหน้าฝนและหลังหมดหน้าฝน รวมถึงตรวจสอบท่อระบายน้ำรอบบ้านว่าไม่อุดตัน เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก ไม่ขังจนเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายหรือกัดเซาะหน้าดิน
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments