วิธีตรวจสอบคุณภาพ สกรู A325 ก่อนใช้งานจริงในงานโครงสร้าง

โดย: นายช่างพรเทพ [IP: 171.99.128.xxx]
เมื่อ: 2025-11-18 14:44:01
วิธีตรวจสอบคุณภาพ สกรู A325 ก่อนใช้งานจริงในงานโครงสร้าง

ในงานก่อสร้างโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ (เช่น อาคารสูง, สะพาน, หรือโรงงาน) ความปลอดภัยและความมั่นคงของโครงสร้างคือสิ่งสำคัญที่สุด และหัวใจที่ยึดโยงชิ้นส่วนเหล็กนับพันตันเข้าไว้ด้วยกันก็คือ "โบลท์แรงดึงสูง" หรือที่เรารู้จักกันในมาตรฐาน สกรู A325 นี่ไม่ใช่สกรูหรือน็อตธรรมดาที่หาซื้อได้ทั่วไป แต่เป็นอุปกรณ์ยึดเหนี่ยวเชิงวิศวกรรมที่ออกแบบมาเพื่อรับแรงดึงและแรงเฉือนมหาศาล การที่ผู้รับเหมาหรือวิศวกรหน้างาน "เชื่อใจ" และติดตั้งไปโดยไม่ตรวจสอบ ถือเป็นความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงได้ บทความนี้คือคู่มือสำหรับวิศวกร, ผู้ควบคุมงาน, และช่างเทคนิค ในการตรวจสอบคุณภาพก่อนการใช้งานจริง



สกรู A325 คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า สกรู A325 (หรือในปัจจุบันมักถูกแทนที่ด้วยมาตรฐาน ASTM F3125 Grade A325) คือ "Heavy Hex Structural Bolt" หรือโบลท์โครงสร้างหัวหกเหลี่ยมขนาดใหญ่

หน้าที่ของมันไม่ได้มีไว้แค่ "ขันให้ติดกัน" แต่มีไว้เพื่อ "อัด" (Clamping Force) ชิ้นส่วนเหล็กสองชิ้นเข้าด้วยกันด้วยแรงดึงที่มหาศาล จนเกิดแรงเสียดทานที่ป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนเหล่านั้นขยับออกจากกัน (ในงานประเภท Slip-Critical) หากโบลท์ที่ใช้ไม่มีคุณภาพ หรือไม่ได้มาตรฐาน A325 จริง โครงสร้างก็อาจวิบัติได้ทันที



ขั้นตอนที่ 1 การตรวจสอบด้วยสายตา (Head Markings)

นี่คือด่านแรกที่ง่ายและสำคัญที่สุดในการคัดกรองของปลอมหรือของที่ไม่ได้มาตรฐาน โบลท์ A325 ทุกตัวที่ผ่านมาตรฐาน จะต้องมีเครื่องหมายบนหัวโบลท์อย่างชัดเจน

• เครื่องหมาย "A325": ต้องมีตัวอักษร "A325" (หรือ F3125/A325) ปั๊มอยู่อย่างชัดเจน หากไม่มีเครื่องหมายนี้ หรือเบลอจนอ่านไม่ออก ให้ตัดทิ้งจากกองทันที

• เครื่องหมายผู้ผลิต (Manufacturer's ID): ต้องมีสัญลักษณ์หรือตัวอักษรย่อที่เป็นเครื่องหมายการค้าของผู้ผลิตที่จดทะเบียน นี่คือการรับประกันว่าโบลท์นี้สามารถสืบย้อนกลับไปยังแหล่งผลิตได้

• ประเภท (Type): หากเป็น Type 3 (Weathering Steel) ที่ทนทานต่อสภาพอากาศและเป็นสนิมยาก มักจะมีเครื่องหมาย "A325" ถูกขีดเส้นใต้ หรือมีสัญลักษณ์ "3" กำกับ



ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบสภาพเกลียวและผิว

หลังจากดูที่หัวแล้ว ให้ตรวจสอบสภาพโดยรวมของโบลท์

• เกลียวต้องสมบูรณ์: เกลียวต้องคมชัด ไม่มีรอยบิ่น, แตก, หรือเสียหายจากการขนส่ง

• ไม่มีสนิม (ยกเว้น Type 3): สำหรับโบลท์ Type 1 ที่เคลือบผิว (เช่น ชุบสังกะสีแบบ Hot-Dip Galvanized หรือเคลือบดำ) จะต้องไม่มีสนิมขุมหรือสนิมแดงเกิดขึ้น

• ความสะอาด: โบลท์ต้องสะอาด ปราศจากคราบดิน, ทราย, หรือสิ่งสกปรก ที่จะส่งผลต่อค่าแรงเสียดทานขณะขัน



ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบ น็อต (Nut) และ แหวนรอง (Washer)

สกรู A325 ถูกออกแบบมาให้ใช้งานเป็น "ชุดประกอบ" (Assembly) ไม่ใช่แค่ตัวโบลท์เดี่ยวๆ การใช้น็อตหรือแหวนรองผิดประเภท ถือว่าอันตรายเทียบเท่ากับการใช้โบลท์ปลอม

• น็อต (Nut): ต้องเป็นน็อตที่ผ่านมาตรฐานสำหรับโบลท์แรงดึงสูง เช่น ASTM A563 (เกรด C, D, DH) หรือ A194 (เกรด 2H) โดยน็อตเหล่านี้จะมีเครื่องหมายกำกับเช่นกัน

• แหวนรอง (Washer): ต้องเป็นแหวนรองแบบแข็ง (Hardened Washer) ที่ผ่านมาตรฐาน ASTM F436 เท่านั้น ห้ามใช้แหวนรองทั่วไป (แหวนอีแปะ) เด็ดขาด เพราะแหวนทั่วไปจะยุบตัวเมื่อขันด้วยแรงบิดสูง ทำให้สูญเสียแรงดึง

• การหล่อลื่น: โดยปกติน็อต หรือโบลท์ที่เคลือบผิว จะต้องมีการหล่อลื่น (Lubrication) มาจากโรงงาน เพื่อให้การขันได้ค่าแรงดึงที่ถูกต้องตามมาตรฐาน



ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบเอกสารรับรอง (Mill Test Report - MTR)

นี่คือหลักฐานทางกฎหมายและวิศวกรรมที่สำคัญที่สุด คุณไม่สามารถ "มอง" เห็นค่าความต้านทานแรงดึง (Tensile Strength) ได้ด้วยตาเปล่า

• ขอ MTR จากซัพพลายเออร์: เอกสารนี้คือ "ใบรับรองผลการทดสอบ" จากโรงงานผู้ผลิต ที่ระบุคุณสมบัติทางเคมีและทางกลของ สกรู A325 ในล็อตนั้นๆ

• ตรวจสอบ Heat Lot Number: หมายเลขล็อตการผลิตที่อยู่บนกล่องหรือป้ายแท็ก ต้องตรงกับหมายเลขในเอกสาร MTR

• ตรวจสอบค่าคุณสมบัติ: ตรวจสอบว่าค่า Tensile Strength (ค่าทนแรงดึง) และ Yield Strength (ค่าจุดคราก) ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ASTM ที่กำหนดหรือไม่



ขั้นตอนที่ 5 การทดสอบก่อนการติดตั้งจริง (Pre-Installation Verification - PIV)

ตามมาตรฐานสากล ก่อนเริ่มใช้งานโบลท์ล็อตใหม่ในหน้างานจริง วิศวกรจำเป็นต้องทำการทดสอบที่เรียกว่า PIV หรือการทดสอบความตึงของโบลท์

• จุดประสงค์: เพื่อยืนยันว่าชุดประกอบ (โบลท์, น็อต, แหวนรอง) จากล็อตนั้นๆ สามารถสร้างแรงดึง (Pretension) ได้ตามค่าที่ออกแบบไว้ เมื่อใช้วิธีการขันตามที่กำหนด (เช่น วิธี Turn-of-Nut หรือใช้ประแจปอนด์)

• อุปกรณ์: จำเป็นต้องใช้เครื่องมือวัดแรงดึงโบลท์โดยเฉพาะ (เช่น Skidmore-Wilhelm)

• ความสำคัญ: การทดสอบนี้จะช่วยจับได้ทันทีหากมีปัญหา เช่น น็อตฝืดเกินไป, สารหล่อลื่นไม่ได้ผล, หรือวัสดุมีปัญหา ซึ่งการตรวจสอบด้วยสายตาไม่สามารถบอกได้




ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 59,029