เปรียบเทียบ สปันไมโครไพล์ กับ เสาเข็มสกรู งานต่อเติมบ้านใช้แบบไหนดี?

เปรียบเทียบ สปันไมโครไพล์ กับ เสาเข็มสกรู งานต่อเติมบ้านใช้แบบไหนดี?

การต่อเติมบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการขยายครัวหลังบ้าน, ทำโรงจอดรถ, หรือสร้างห้องเพิ่ม สิ่งที่เจ้าของบ้านกังวลมากที่สุดไม่ใช่เรื่องความสวยงาม แต่คือปัญหา "การทรุดตัว" ในอนาคต การลงเสาเข็มสำหรับส่วนต่อเติมจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ห้ามประมาท แต่ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ที่มักจะคับแคบ, ต้องทำงานชิดตัวบ้านเดิม, และกังวลเรื่องแรงสั่นสะเทือน ทำให้เสาเข็มตอกขนาดใหญ่แบบเดิมๆ ไม่สามารถใช้งานได้ ตัวเลือกยอดนิยมในปัจจุบันจึงหนีไม่พ้นเสาเข็มขนาดเล็ก 2 ประเภท นั่นคือ สปันไมโครไพล์ และ เสาเข็มสกรู บทความนี้จะมาเปรียบเทียบให้ชัดเจนว่า ทั้งสองแบบมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร และงานแบบไหนควรเลือกใช้อะไร



ทำความรู้จัก "เสาเข็ม สปันไมโครไพล์" (Spun Micro Pile)

เสาเข็มสปันไมโครไพล์ คือเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กที่ผลิตด้วยกรรมวิธีการปั่นเหวี่ยงคอนกรีตในแบบหล่อด้วยความเร็วสูง ทำให้ได้เนื้อคอนกรีตที่แน่น, แข็งแกร่ง, และรับน้ำหนักได้สูงกว่าเสาเข็มคอนกรีตทั่วไป

• วิธีการติดตั้ง:

o มักมีหน้าตัดกลมกลวง

o ติดตั้งโดยการ "ตอก" (Hammering) หรือ "กด" (Jacking) ลงไปในดิน

o สามารถต่อเสาเข็มเป็นท่อนๆ (Section) เพื่อเพิ่มความลึกจนถึงชั้นดินแข็งได้

• ข้อดี: รับน้ำหนักได้สูงมาก, มีความน่าเชื่อถือสูงในแง่การป้องกันการทรุดตัวระยะยาว เพราะสามารถส่งกำลังลงไปถึงชั้นดินแข็งได้



ทำความรู้จัก "เสาเข็มสกรู" (Screw Pile / Helical Pile)

เสาเข็มสกรู หรือ เสาเข็มเหล็กแบบหมุน คือเสาเข็มที่ทำจากเหล็กทั้งท่อน โดยมีลักษณะเด่นคือ "ใบเกลียว" (Helical Blades) ติดอยู่ที่ปลายเสาหรือตลอดความยาว

• วิธีการติดตั้ง:

o ติดตั้งโดยการใช้หัวขับไฮดรอลิก "หมุน" เสาเข็มลงไปในดิน คล้ายกับการขันสกรูลงไปในไม้

o ไม่มีการตอก ไม่มีการสั่นสะเทือน

• ข้อดี: ติดตั้งรวดเร็วมาก, หน้างานสะอาด, และ "ไม่มีแรงสั่นสะเทือน" เลยแม้แต่น้อย





เปรียบเทียบหมัดต่อหมัด สปันไมโครไพล์ vs เสาเข็มสกรู

เมื่อต้องใช้ใน "งานต่อเติม" ที่มีข้อจำกัดสูง เราสามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติที่สำคัญได้ดังนี้

เรื่องแรงสั่นสะเทือน: (เสาเข็มสกรู ชนะขาด)

นี่คือจุดแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด

• เสาเข็มสกรู: ชนะในข้อนี้ เพราะกระบวนการติดตั้งคือการ "หมุน" จึง "ไม่มีแรงสั่นสะเทือน" (Zero Vibration) 100% เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงานที่ชิดตัวบ้านเดิมมากๆ หรือในพื้นที่ที่โครงสร้างบ้านเดิมค่อนข้างเก่าและเปราะบาง

• สปันไมโครไพล์: มี 2 แบบ

1. แบบตอก (Hammered): "มีแรงสั่นสะเทือนสูง" อาจกระทบโครงสร้างเดิมได้

2. แบบกด (Jacked/Pressed): ใช้น้ำหนักของเครื่องจักรหรือโครงสร้างเดิมกดเสาเข็มลงไป "แรงสั่นสะเทือนต่ำมาก" (Low Vibration) แต่ยังไม่เท่ากับศูนย์



การรับน้ำหนักและชั้นดินแข็ง (สปันไมโครไพล์ มั่นใจกว่า)

• สปันไมโครไพล์: ถูกออกแบบมาเพื่อตอกหรือกดให้ทะลุชั้นดินอ่อนลงไปจนถึง "ชั้นดินแข็ง" (Hard Soil Layer) ซึ่งเป็นมาตรฐานการรับน้ำหนักที่ดีที่สุด ทำให้มั่นใจได้ในระยะยาวว่าจะไม่เกิดการทรุดตัว เหมาะสำหรับส่วนต่อเติมที่รับน้ำหนักมาก เช่น การต่อเติม 2-3 ชั้น

• เสาเข็มสกรู: การรับน้ำหนักจะขึ้นอยู่กับ "แรงยึดหน่วง" ของใบเกลียวในชั้นดิน แม้จะสามารถหมุนลงไปได้ลึก แต่การรับน้ำหนักอาจจะน้อยกว่า สปันไมโครไพล์ (เมื่อเทียบขนาดที่ใกล้เคียงกัน) เหมาะสำหรับงานต่อเติม 1 ชั้น หรือโครงสร้างที่ไม่หนักมาก เช่น ระเบียง หรือโรงจอดรถ

ความรวดเร็วและหน้างาน: (เสาเข็มสกรู เร็วกว่า)

• เสาเข็มสกรู: ติดตั้งได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ อาจเสร็จภายใน 1-2 วัน หน้างานสะอาดมากเพราะไม่มีดินที่ถูกขุดขึ้นมา (No displacement) และไม่มีเศษคอนกรีต

• สปันไมโครไพล์: ใช้เวลาติดตั้งนานกว่า ต้องใช้เครื่องจักรที่ซับซ้อนกว่า (เช่น ปั้นจั่นเล็ก หรือเครื่องจักรกดไฮดรอลิก) และหน้างานอาจมีโคลนหรือดินจากการตอกได้บ้าง





สรุปเลือกอย่างไร งานแบบไหนเหมาะกับอะไร

ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าแบบไหนดีกว่า แต่มีคำตอบว่า "แบบไหนเหมาะกว่า" สำหรับงานของคุณ

ให้เลือก "เสาเข็มสกรู" (Screw Pile) เมื่อ:

• เงื่อนไขสำคัญที่สุดคือ "ห้ามสั่นสะเทือน" เพราะบ้านเดิมเก่ามาก หรืออยู่ชิดกันมาก

• ต้องการความรวดเร็วและหน้างานที่สะอาดที่สุด

• ส่วนต่อเติมมีน้ำหนักไม่มาก เช่น ต่อเติมครัวชั้นเดียว, ลานซักล้าง, หรือระเบียงไม้

ให้เลือก "สปันไมโครไพล์" (Spun Micro Pile) เมื่อ:

• เป้าหมายคือ "การรับน้ำหนักสูงสุด" และ "การป้องกันการทรุดตัวระยะยาว"

• ส่วนต่อเติมมีน้ำหนักมาก เช่น การต่อเติมอาคาร 2 ชั้น หรือ 3 ชั้น

• คุณต้องการความมั่นใจสูงสุดว่าเสาเข็มได้ลงไปถึงชั้นดินแข็งที่แท้จริง

• (ข้อควรระวัง) หากเลือก สปันไมโครไพล์ ในพื้นที่แคบ ควรมองหาผู้รับเหมาที่ใช้วิธี "กด" (Jacking) แทนการ "ตอก" เพื่อลดผลกระทบเรื่องแรงสั่นสะเทือน