7 ขั้นตอนเตรียมรับมือแผ่นดินไหว สำหรับบุคคลทั่วไป
โดย:
รอบรู้ไทย
[IP: 171.99.128.xxx]
เมื่อ: 2025-11-13 15:21:03
7 ขั้นตอนเตรียมรับมือแผ่นดินไหว สำหรับบุคคลทั่วไป
แผ่นดินไหวคือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยไม่อาจคาดเดาได้ และสามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ภายในไม่กี่วินาที แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้ตั้งอยู่บนแนววงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) โดยตรง แต่เราก็ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนจากประเทศเพื่อนบ้านอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแรงสั่นสะเทือนเหล่านี้อันตรายอย่างยิ่งต่ออาคารที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีปัญหาโครงสร้างอยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะปัญหา "บ้านทรุด" ที่พบเห็นได้บ่อยในหลายพื้นที่ การเตรียมความพร้อมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการเอาชีวิตรอดในขณะเกิดเหตุ แต่ยังรวมถึงการตรวจสอบโครงสร้าง และการ แก้ไขบ้านทรุด ให้แข็งแรงก่อนที่ภัยพิบัติจะมาถึง บทความนี้คือ 7 ขั้นตอนสำคัญที่ทุกครัวเรือนควรเตรียมพร้อม
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบความมั่นคงของโครงสร้างบ้าน
นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดและต้องทำ "ก่อน" ที่จะเกิดเหตุ ภัยพิบัติจะเผยให้เห็นจุดอ่อนทั้งหมดของอาคาร
• สำรวจรอยร้าว: มองหารอยร้าวขนาดใหญ่บนผนัง, เสา, หรือคาน โดยเฉพาะรอยร้าวแนวทแยงมุม ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายว่าโครงสร้างกำลังรับน้ำหนักไม่ไหว
• ประตูหน้าต่างฝืด: สังเกตว่าประตูหรือหน้าต่างในบ้านเริ่มเปิด-ปิดยากขึ้นหรือไม่ เพราะนั่นอาจหมายถึงโครงสร้างอาคารกำลังบิดตัว
• พื้นลาดเอียง: ทดสอบโดยการวางลูกแก้วบนพื้น หากลูกแก้วไหลไปในทิศทางเดียวกันตลอด แสดงว่าพื้นกำลังทรุดเอียง
เมื่อแผ่นดินไหวมาเยือนบ้านที่กำลังทรุด
บ้านที่กำลังทรุดตัวอยู่แล้ว แม้เพียงเล็กน้อย ก็เปรียบเสมือนโครงสร้างที่อ่อนแอและรอวันพังทลาย เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว แม้จะเป็นเพียงแรงสั่นสะเทือนระดับปานกลาง ก็อาจเป็น "ฟางเส้นสุดท้าย" ที่ทำให้โครงสร้างวิบัติ (Collapse) ได้ทันที
ดังนั้น การลงทุนในการ แก้ไขบ้านทรุด อย่างถูกวิธีโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ (เช่น การเสริมฐานราก หรือการยกปรับระดับบ้าน) จึงไม่ใช่แค่การซ่อมแซมเพื่อความสวยงาม แต่คือการ "ซื้อประกัน" ที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัวเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างแผ่นดินไหว
ขั้นตอนที่ 2: ยึดเฟอร์นิเจอร์หนักให้แน่น (Secure Your Space)
ในขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหว อันตรายอันดับต้นๆ ไม่ใช่ตึกถล่ม แต่คือ "เฟอร์นิเจอร์ล้มทับ" ของหนักที่ไม่ได้ยึดติดกับผนังจะกลายเป็นอาวุธอันตรายทันที
• ยึดตู้สูง: ใช้ฉากเหล็กหรือสายรัด ยึดตู้หนังสือ, ตู้เสื้อผ้า, หรือชั้นวางทีวี ให้ติดแน่นกับผนัง
• ย้ายของหนักลงต่ำ: จัดเก็บของที่มีน้ำหนักมากไว้ในชั้นล่างสุด
• ตรวจสอบโคมไฟแขวน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโคมไฟระย้าหรือพัดลมเพดานถูกติดตั้งอย่างแข็งแรง
ขั้นตอนที่ 3: จัดเตรียม "กระเป๋าฉุกเฉิน" (Go-Bag)
เตรียมกระเป๋าเป้ที่พร้อมหยิบและหนีออกจากบ้านได้ทันที ในกรณีที่ต้องอพยพหลังเกิดเหตุ โดยของที่จำเป็นควรมีดังนี้
• น้ำดื่มบรรจุขวด (เพียงพอสำหรับ 3 วัน)
• อาหารแห้ง หรืออาหารที่ให้พลังงานสูง
• ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น และยาประจำตัว
• ไฟฉาย และแบตเตอรี่สำรอง (หรือวิทยุแบบมือหมุน)
• นกหวีด (สำหรับเป่าขอความช่วยเหลือ)
• สำเนาเอกสารสำคัญ และเงินสดเล็กน้อย
ขั้นตอนที่ 4: วางแผนสื่อสารและจุดนัดพบ
เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ระบบสื่อสารมักจะล่มเป็นอันดับแรก และสมาชิกในครอบครัวอาจไม่ได้อยู่ด้วยกัน
• กำหนดจุดนัดพบ: ตกลงกันในครอบครัวว่าจะไปพบกันที่ใดหากพลัดหลงกัน โดยควรกำหนด "จุดนัดพบที่ 1" (ใกล้บ้าน เช่น หน้าบ้าน) และ "จุดนัดพบที่ 2" (ไกลออกไป เช่น สวนสาธารณะในชุมชน)
• เบอร์ติดต่อฉุกเฉิน: สอนให้สมาชิกในครอบครัวจดจำเบอร์ติดต่อสำคัญ หรือจดใส่กระดาษพกติดตัวไว้
ขั้นตอนที่ 5: เรียนรู้หลัก "หมอบ-หาที่กำบัง-ยึดเกาะ" (Drop, Cover, Hold On)
นี่คือหลักสากลที่สำคัญที่สุดในการเอาชีวิตรอด "ระหว่าง" ที่แผ่นดินกำลังสั่นไหว
• หมอบ (Drop): หมอบลงกับพื้นทันที
• หาที่กำบัง (Cover): มุดเข้าไปใต้โต๊ะที่แข็งแรง หรือหาโครงสร้างที่แข็งแรงกำบังศีรษะและลำคอ หากไม่มีที่กำบัง ให้ใช้แขนบังศีรษะและหมอบชิดกำแพงด้านใน
• ยึดเกาะ (Hold On): ใช้มือข้างหนึ่งยึดขาโต๊ะไว้ให้แน่น และเตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนที่ตามโต๊ะหากโต๊ะขยับ
ข้อห้าม: ห้ามวิ่งออกไปนอกอาคารขณะที่ยังสั่นไหว, ห้ามใช้ลิฟต์, และห้ามยืนใกล้หน้าต่างหรือกระจก
ขั้นตอนที่ 6: การปิดวาล์วและระบบสาธารณูปโภค
หลังจากการสั่นไหวครั้งแรกสงบลง ภัยอันตรายที่มักตามมาคือ "ไฟไหม้" จากแก๊สรั่ว หรือไฟฟ้าลัดวงจร
• เรียนรู้ตำแหน่งและวิธีปิดวาล์วแก๊สหลัก, เบรกเกอร์ตัดไฟ, และวาล์วน้ำของบ้าน
• หากได้กลิ่นแก๊สรั่ว ให้รีบปิดวาล์วหลัก (ถ้าทำได้อย่างปลอดภัย) และอพยพออกจากพื้นที่ทันที
ขั้นตอนที่ 7: การเตรียมความพร้อมด้านจิตใจและความรู้
ความตื่นตระหนกคือศัตรูที่อันตรายที่สุด การ "ซ้อมแผน" เป็นประจำจะช่วยลดความกลัวและทำให้ร่างกายจดจำสิ่งที่ต้องทำได้โดยอัตโนมัติ การมีความรู้ที่ถูกต้องและแผนการรับมือที่ชัดเจน คือการเตรียมพร้อมที่ดีที่สุด
แผ่นดินไหวคือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยไม่อาจคาดเดาได้ และสามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ภายในไม่กี่วินาที แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้ตั้งอยู่บนแนววงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) โดยตรง แต่เราก็ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนจากประเทศเพื่อนบ้านอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแรงสั่นสะเทือนเหล่านี้อันตรายอย่างยิ่งต่ออาคารที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีปัญหาโครงสร้างอยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะปัญหา "บ้านทรุด" ที่พบเห็นได้บ่อยในหลายพื้นที่ การเตรียมความพร้อมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการเอาชีวิตรอดในขณะเกิดเหตุ แต่ยังรวมถึงการตรวจสอบโครงสร้าง และการ แก้ไขบ้านทรุด ให้แข็งแรงก่อนที่ภัยพิบัติจะมาถึง บทความนี้คือ 7 ขั้นตอนสำคัญที่ทุกครัวเรือนควรเตรียมพร้อม
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบความมั่นคงของโครงสร้างบ้าน
นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดและต้องทำ "ก่อน" ที่จะเกิดเหตุ ภัยพิบัติจะเผยให้เห็นจุดอ่อนทั้งหมดของอาคาร
• สำรวจรอยร้าว: มองหารอยร้าวขนาดใหญ่บนผนัง, เสา, หรือคาน โดยเฉพาะรอยร้าวแนวทแยงมุม ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายว่าโครงสร้างกำลังรับน้ำหนักไม่ไหว
• ประตูหน้าต่างฝืด: สังเกตว่าประตูหรือหน้าต่างในบ้านเริ่มเปิด-ปิดยากขึ้นหรือไม่ เพราะนั่นอาจหมายถึงโครงสร้างอาคารกำลังบิดตัว
• พื้นลาดเอียง: ทดสอบโดยการวางลูกแก้วบนพื้น หากลูกแก้วไหลไปในทิศทางเดียวกันตลอด แสดงว่าพื้นกำลังทรุดเอียง
เมื่อแผ่นดินไหวมาเยือนบ้านที่กำลังทรุด
บ้านที่กำลังทรุดตัวอยู่แล้ว แม้เพียงเล็กน้อย ก็เปรียบเสมือนโครงสร้างที่อ่อนแอและรอวันพังทลาย เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว แม้จะเป็นเพียงแรงสั่นสะเทือนระดับปานกลาง ก็อาจเป็น "ฟางเส้นสุดท้าย" ที่ทำให้โครงสร้างวิบัติ (Collapse) ได้ทันที
ดังนั้น การลงทุนในการ แก้ไขบ้านทรุด อย่างถูกวิธีโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ (เช่น การเสริมฐานราก หรือการยกปรับระดับบ้าน) จึงไม่ใช่แค่การซ่อมแซมเพื่อความสวยงาม แต่คือการ "ซื้อประกัน" ที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัวเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างแผ่นดินไหว
ขั้นตอนที่ 2: ยึดเฟอร์นิเจอร์หนักให้แน่น (Secure Your Space)
ในขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหว อันตรายอันดับต้นๆ ไม่ใช่ตึกถล่ม แต่คือ "เฟอร์นิเจอร์ล้มทับ" ของหนักที่ไม่ได้ยึดติดกับผนังจะกลายเป็นอาวุธอันตรายทันที
• ยึดตู้สูง: ใช้ฉากเหล็กหรือสายรัด ยึดตู้หนังสือ, ตู้เสื้อผ้า, หรือชั้นวางทีวี ให้ติดแน่นกับผนัง
• ย้ายของหนักลงต่ำ: จัดเก็บของที่มีน้ำหนักมากไว้ในชั้นล่างสุด
• ตรวจสอบโคมไฟแขวน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโคมไฟระย้าหรือพัดลมเพดานถูกติดตั้งอย่างแข็งแรง
ขั้นตอนที่ 3: จัดเตรียม "กระเป๋าฉุกเฉิน" (Go-Bag)
เตรียมกระเป๋าเป้ที่พร้อมหยิบและหนีออกจากบ้านได้ทันที ในกรณีที่ต้องอพยพหลังเกิดเหตุ โดยของที่จำเป็นควรมีดังนี้
• น้ำดื่มบรรจุขวด (เพียงพอสำหรับ 3 วัน)
• อาหารแห้ง หรืออาหารที่ให้พลังงานสูง
• ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น และยาประจำตัว
• ไฟฉาย และแบตเตอรี่สำรอง (หรือวิทยุแบบมือหมุน)
• นกหวีด (สำหรับเป่าขอความช่วยเหลือ)
• สำเนาเอกสารสำคัญ และเงินสดเล็กน้อย
ขั้นตอนที่ 4: วางแผนสื่อสารและจุดนัดพบ
เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ระบบสื่อสารมักจะล่มเป็นอันดับแรก และสมาชิกในครอบครัวอาจไม่ได้อยู่ด้วยกัน
• กำหนดจุดนัดพบ: ตกลงกันในครอบครัวว่าจะไปพบกันที่ใดหากพลัดหลงกัน โดยควรกำหนด "จุดนัดพบที่ 1" (ใกล้บ้าน เช่น หน้าบ้าน) และ "จุดนัดพบที่ 2" (ไกลออกไป เช่น สวนสาธารณะในชุมชน)
• เบอร์ติดต่อฉุกเฉิน: สอนให้สมาชิกในครอบครัวจดจำเบอร์ติดต่อสำคัญ หรือจดใส่กระดาษพกติดตัวไว้
ขั้นตอนที่ 5: เรียนรู้หลัก "หมอบ-หาที่กำบัง-ยึดเกาะ" (Drop, Cover, Hold On)
นี่คือหลักสากลที่สำคัญที่สุดในการเอาชีวิตรอด "ระหว่าง" ที่แผ่นดินกำลังสั่นไหว
• หมอบ (Drop): หมอบลงกับพื้นทันที
• หาที่กำบัง (Cover): มุดเข้าไปใต้โต๊ะที่แข็งแรง หรือหาโครงสร้างที่แข็งแรงกำบังศีรษะและลำคอ หากไม่มีที่กำบัง ให้ใช้แขนบังศีรษะและหมอบชิดกำแพงด้านใน
• ยึดเกาะ (Hold On): ใช้มือข้างหนึ่งยึดขาโต๊ะไว้ให้แน่น และเตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนที่ตามโต๊ะหากโต๊ะขยับ
ข้อห้าม: ห้ามวิ่งออกไปนอกอาคารขณะที่ยังสั่นไหว, ห้ามใช้ลิฟต์, และห้ามยืนใกล้หน้าต่างหรือกระจก
ขั้นตอนที่ 6: การปิดวาล์วและระบบสาธารณูปโภค
หลังจากการสั่นไหวครั้งแรกสงบลง ภัยอันตรายที่มักตามมาคือ "ไฟไหม้" จากแก๊สรั่ว หรือไฟฟ้าลัดวงจร
• เรียนรู้ตำแหน่งและวิธีปิดวาล์วแก๊สหลัก, เบรกเกอร์ตัดไฟ, และวาล์วน้ำของบ้าน
• หากได้กลิ่นแก๊สรั่ว ให้รีบปิดวาล์วหลัก (ถ้าทำได้อย่างปลอดภัย) และอพยพออกจากพื้นที่ทันที
ขั้นตอนที่ 7: การเตรียมความพร้อมด้านจิตใจและความรู้
ความตื่นตระหนกคือศัตรูที่อันตรายที่สุด การ "ซ้อมแผน" เป็นประจำจะช่วยลดความกลัวและทำให้ร่างกายจดจำสิ่งที่ต้องทำได้โดยอัตโนมัติ การมีความรู้ที่ถูกต้องและแผนการรับมือที่ชัดเจน คือการเตรียมพร้อมที่ดีที่สุด
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments